(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/_Digital_Offset_Head-189345a4ab6d12b63.jpg) (https://www.pimplernprint.com/namecard-digitaloffset)
พิมพ์นามบัตร ราคาถูก Digital Offset ราคาคละแบบได้ เริ่มต้นขั้นต่ำ 100 ใบ 100 บาท
พิมพ์เพลินพริ้นท์ มีบริการ Template พิมพ์นามบัตรสวยๆ ไว้ให้เลือกมากกว่า 100 แบบ
พิมพ์นามบัตร PVC เหนียว ทนทาน ฉีกไม่ขาด กันน้ำ 100% (https://www.pimplernprint.com/namecard-pvc)
และพิมพ์นามบัตรพรีเมียม จัดส่งทั่วประเทศ ทำนามบัตรด่วน พิมพ์นามบัตรสี
การพิมพ์นามบัตรนั้นเดิมทีถูกใช้เพื่อการแนะนำตัวของตัวเองให้กับบุคคลภายนอก เพื่ออำนวยความสะดวกใน
การช่วยให้อีกข้างสามารถจำตัวเองก้าวหน้าขึ้น และทำให้อีกข้างทราบโปรไฟล์ของเราโดยคร่าวๆได้ ไม่ว่าจะเป็นชื่อ ตำแหน่ง
ที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ สำหรับเพื่อการพิมพ์นามบัตรแจกนั้นได้รับความนิยมกันเป็นอย่างมากในสมัยก่อนในยุคที่ยังไม่มีโทรศัพท์เคลื่อนที่
เพราะเหตุว่าหากต้องการเขียนเบอร์โทรศัพท์จะต้องใช้การเขียนลงสมุดแล้วต้องสอบถามรายละเอียดที่ได้รับมาจากบุคคลนั้น ซึ่งบางทีก็อาจจะไม่
สบายและก็ทำให้ล่าช้าอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการสัมมนาหรือพบปะผู้อื่นด้วยแล้ว การพิมพ์นามบัตรจึงนับเป็น
สิ่งจำเป็นอย่างเสียมิได้
แม้ว่าในตอนนี้จะมีวัสดุอุปกรณ์ที่ช่วยสำหรับเพื่อการแนะนำตัวเองรวมทั้งโปรไฟล์ได้มากมายหลายแนวทาง แม้กระนั้นถ้าว่านิยามของการ
พิมพ์นามบัตรไม่ใช่แค่เพียงแค่เป็น "Name Card" แต่ว่าแปลงเป็น "Business Card" ซึ่งสื่อความหมายโดยนัยมีบัตรที่ใช้
เพื่อการติดต่อธุรกิจหรือเรียกได้บัตรที่ใช้แนะนำตัวอย่างเป็นทางการก็ได้ สำหรับในการติดต่อธุรกิจกับคนอื่นๆนั้นการแจกนามบัตรนั้น
เป็นสิ่งที่ต้องการมากในตอนนี้ โดยเฉพาะค่าความนิยมของประเทศญี่ปุ่นนั้นถือว่าให้พกนามบัตรประจำตัวตลอดเวลาและให้ความสำคัญมาก
กว่ากระเป๋าธนบัตรอีกด้วย เพราะเหตุว่าถ้ามีการพบเจอบุคคลภายนอกจนเกิดการแนะนำตัวแล้วไม่มีนามบัตรนับว่าเสียมารยาท
และไม่ให้เกียรติบุคคลนั้น ด้วยเหตุผลดังกล่าวการพิมพ์นามบัตร (https://www.pimplernprint.com/namecard-digitaloffset)ก็เลยมีความสำคัญอย่างที่สุดไม่ใช่เพียงแค่ในเชิงธุรกิจแต่รวมถึงบุคคลทั่วไปด้วย
รูปแบบของนามบัตรนั้นจะแตกต่างกันออกไปตามเป้าประสงค์การใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น ใช้แนะนำเป็นการส่วนตัว หรือ แนะ
นำในทางธุรกิจ เป็นต้น โดยรายละเอียดข้อมูลสำหรับเพื่อการพิมพ์นามบัตรจะแตกต่างกันออกไป โดยทั่วไปข้อมูลฐานรากที่ต้องมีไม่ว่า
นามบัตรแบบไหน คือ 1.ชื่อ – ชื่อสกุลของเจ้าของบัตร 2.เบอร์โทรศัพท์หรือช่องทางติดต่อโดยจะเป็นแนวทางใดก็ได้ประการใดอย่าง
หนึ่งก็ได้หรือหลายสิ่งหลายอย่างก็ได้ตามแต่สบาย ซึ่งในปัจจุบันนอกเหนือจากเจาะจงเบอร์โทรศัพท์ โทรศัพท์มือถือ ที่อยู่ บางครั้งอาจจะเพิ่มอีกที่อยู่อีเมล
facebook LineID เสริมเติมฯลฯ แต่แม้เป็นการพิมพ์นามบัตรเพื่อธุรกิจก็ควรมีเพิ่มเติมในเรื่องชื่อบริษัท ตำแหน่ง
ที่รับผิดชอบ และอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีข้อมูลบริษัทอย่างคร่าวๆ รวมถึงการใช้อีเมลหรือเบอร์โทรศัทพ์บางทีอาจจะต้องเป็นของบริษัทด้วยเพื่อความน่า
เชื่อใจฯลฯ
งานพิมพ์นามบัตรนั้นจะมีลักษณะเป็นขนาดแผ่นเดียวโดยมีความแข็งแรงพอสมควร ไม่สมควรบางหรืออ่อนตัวจนเกินไป ซึ่ง
ขนาดอาจจะมีแตกต่างออกไปบ้างน้อยแต่ว่าไม่สมควรต่างจากขนาดมาตรฐานมากนัก นั่นเป็น 3.5 x 2.125 นิ้ว เพราะขนาด
ของบรรจุภัณฑ์ที่ดีไซน์มาเก็บนามบัตรนั้นจะมีขนาดที่เข้ากับขนาดมาตรฐานเป็นหลัก สำหรับกระดาษที่ใช้จะต้องมีความดก
260 แกรมขึ้นไป โดยนิยมกระดาษอาร์ตการ์ดหรือกระดาษแฟนซี โดยการพิมพ์นามบัตร (https://www.pimplernprint.com/namecard-digitaloffset)นั้นจะพิมพ์ด้านเดียวหรือสองด้านก็ได้
โดยปัจจุบันนี้นิยมพิมพ์สองด้านโดยจะมักจะเจาะจงรายละเอียดเป็นภาษาไทยด้านหนึ่งรวมทั้งภาษาอังกฤษด้านหนึ่ง ซึ่งถือว่าเหมาะสำหรับเพื่อการ
ใช้ติดต่อธุรกิจที่อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีชาวต่างชาติรวมอยู่ด้วย
การออกแบบนามบัตรให้มีความงดงามนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งเพราะเหตุว่าช่วยเพิ่มความน่าไว้วางใจสำหรับในการทำธุรกิจ สำหรับ
คนที่ไม่รู้จักท่านหรือบริษัทท่านเป็นการส่วนตัวแม้ได้เห็นนามบัตรที่มองภูมิฐานก็จะมีผลให้เชื่อมั่นว่าบริษัทท่านจำต้องดูน่าไว้วางใจตามไป
ด้วย การตกแต่งเสริมเติมในกับนามบัตรก็เลยเป็นที่นิยมกันอย่างล้นหลาม ดังเช่น การเคลือบ UV ฉาบเงา ฉาบด้าน ฉาบ
Spot UV ปั๊มนูน ปั๊มทองคำ รวมทั้งฯลฯขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละท่านนั่นเอง
Tags : พิมพ์นามบัตร (https://www.pimplernprint.com/namecard-digitaloffset)
Tags : พิมพ์นามบัตร สวย (https://www.pimplernprint.com/namecard-digitaloffset)